คำถามท้ายหน่วยที่1

1.จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการสื่อสารโทรศัพท์แบบทั้วไปกับแบบ VoIP และบอกถึงข้อดี ข้อเสียของระบบ VoIP

ตอบ   การสื่อสารโทรศัพท์แบบทั่วไปกับ VoIP แตกต่างกันที่การสื่อสารแบบ VoIP เป็นการสื่อสารทาง               เสียงที่แปลงสัญญาณเสียงในรูปของสัญญาณไฟฟ้ามาเปลี่ยนเป็นสัญญาณดิจิตอล  เป็นการนํา               ข้อมูลเสียงมาบีบอัดและบรรจุลงเป็นแพ็กเก็ตไอพีแล้วส่งไปโดยมีเราเตอร์

         ข้อดีของ VoIP    

         ลดค่าใช้จ่าย
         เพิ่มความยืดหยุ่นในการติดต่อสื่อสาร    
         จัดการระบบเครือข่ายได้ง่าย
         รองรับการขยายตัวในอนาคต
         ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลและจัดการระบบ
         ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ไร้สายได้
         เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 

           ข้อเสียของ VoIP

         หากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตล่มระบบ โทรศัพท์ก็จะล่มด้วย
         หัวเครื่องราคาสูงกว่าเครื่อง analog
         เสียงอาจจะมีการดีเลย์หรือสัญญาณเสียงเดินทางมาช้าในบางคราว และต้องรอให้อีกฝ่ายพูดให้            จบก่อน จึงจะสามาถพูดโต้ตอบได้

2.จงอธิบายความหมายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ตอบ  ระบบที่มีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสองเครื่องเชื่อมต่อกันโดยใช้สื่อกลาง และสามารถสื่อสารข้อมูล               กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

3.จงบอกประโยชน์ของระบบเครือข่าย

ตอบ  การแลกเปลี่ยนข้อมูลทำได้ง่าย ทำงานประสานกันเป็นอย่างดี ติดต่อสื่อสารสะดวก รวดเร็ว  เรียก             ข้อมูลจากบ้านได้

 4.เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีอยู่กี่ประเภทอะไรบ้าง

ตอบ    3 ประเภท
           1. ระบบเครือข่ายท้องถิ่น LAN  การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระยะใกล้                      ภายในสำนักงาน หรืออาคารเดียวกัน ตัวอย่างเช่น สายโทรศัพท์ 
          2. ระบบเครือข่ายระดับเมือง MAN  การเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมต่อกันภายใน                เมืองเดียวกันหรือจังหวัดเดียวกัน ในเขตเดียวกัน ตัวอย่างเช่น เคเบิลทีวี 
           3. ระบบเครือข่ายระยะไกล WAN  การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ระยะไกล เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่            เช่น ระหว่างประเทศ ตัวอย่างเช่น ดาวเทียม

5.จงสรุปหลักการทำงานของแต่ละลำดับขั้นบนแบบจำลอง OSI


ตอบ   ชั้นสื่อสารทั้ง 7 ในแบบจำลอง OSI

           1. ชั้นสื่อสารทางกายภาพ (Physical Layer)
               กำหนดวิธีควบคุมการรับส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในระดับบิต
           2. ชั้นสื่อสารเชื่อมต่อข้อมูล (Data Link Layer)
               รวบรวมข้อมูลจากชั้นสื่อสารทางกายภาพ ด้วยการกำหนดรูปแบบของข้อมูลที่ส่งผ่านยภายใน                  เครือข่ายให้อยู่ในรูปแบบของ เฟรม (Frame)
           3. ชั้นสื่อสารควบคุมเครือข่าย (Network Layer)
               จัดการกับรูปแบบข้อมูลที่เรียกว่า แพ็กเก็ต (Packet)
           4. ชั้นสื่อสารเพื่อนำส่งข้อมูล (Trasport Layer)
               ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดที่มีการรับส่งกันระหว่างต้นทางจนกระทั่งถึงปลายทาง
           5. ชั้นสื่อสารควบคุมหน้าต่างสื่อสาร (Session Layer)
               ดูแลและจัดการการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ปลายทาง โดยเริ่มตั้งแต่การสร้างคอนเน็กชั่นเพื่อการ                  ติดต่อสื่อสารไปจนกระทั่งยุติการสารสื่อด้วยการยกเลิกคอนเน็กชั่นระหว่างอุปกรณ์ที่เชื่อมโยง                ระหว่างกัน
           6. ชั้นสื่อสารนำเสนอข้อมูล (Presentatiion Layer)
               ดำเนินการแปลงรูปแบบข้อมูลที่ได้รับมาจากชั้นสื่อสาการประยุกต์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับรหัสแทน                    ข้อมูลที่อาจมาจากระบบคอมพิวเตอร์
           7. ชั้นสื่อสารการประยุกต์ (Application Layer)
               เกี่ยวข้องกับการทำงานของโปรแกรมประยุกต์ต่างๆที่ใช้สำหรับการติดต่อสื่อสาร ผู้ใขช้งาน                      สามารถใช้โปรแกรมประยบุกต์ต่างๆเพื่อเข้าถึงเครือข่าย โดยจะมีอินเตอร์เฟซเพื่อให้การ                          โต้ตอบกันระหว่างผู้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ที่สื่อสารกันจะใช้รหัสแทนข้อมูลที่แตกต่างกันก็ตาม






ความคิดเห็น